วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2552

วิธีเืลือกทรงผม ให้เข้ากับรูปหน้า,,


หน้ารูปไข่ เป็นอะไรที่ perfect ค่ะ เพราะสามารถหาทรงผม ที่เข้ากับรูปหน้าได้ง่าย และหลากหลาย ไม่ว่าจะสั้นจะยาว แต่แบบที่สวยโดนใจสุดๆ คงต้องเป็นผมสไลส์ไล่ระดับ ในช่วงใดของใบหน้า ที่อยากให้คนอื่นมอง เช่น สไลซ์ใกล้โหนกแก้ม ริมฝีปาก หรือ คาง
+ ควรหลีกเลี่ยง
ทรงผมสั้นสไลซ์ไล่ระดับ ที่เพิ่มความสูงให้กับส่วนบนของศีรษะ เพราะจะทำให้ใบหน้าดูยาวไป
หน้าสี่เหลี่ยม สาวที่มีลักษณะหน้าผากกว้าง โหนกแก้มเยอะ หรือคางปาด จะเหมาะกับทรงผมที่เป็นลอนอ่อนๆ ทรงสไลซ์ ให้ไล่ระดับตามกรอบหน้า ถ้าเป็นทรงผมสั้นต้องเป็นปลายแหลมๆ จะดูสวยมากค่ะ ถ้าผมยาวให้สไลซ์ผมกรอมใบหน้าด้านข้าง เพื่อปิดขากรรไกร ไล่ลงมาด้านล่าง
+ ควรหลีกเลี่ยง
ทรงผมบ๊อบตัดตรง โดยเฉพาะที่มีความยาวระดับคาง และผมม้าทื่อๆ เพราะจะยิ่งทำให ้ใบหน้าดูเป็นเหลี่ยมมากขึ้น
หน้ากลม เหมาะกับทรงผม ที่มีความยาวเลยคางลงไป และทรงผมที่เล่นระดับจากศีรษะด้านบน ลงด้านล่าง ซึ่งจะช่วยถ่ายเทน้ำหนัก และความกลมตันของใบหน้าให้เฉลี่ยออกไปด้านข้าง ทรงผมที่สวยน่ารัก คือผมดัดลอนอ่อนๆ ตั้งแต่ช่วงปลายติ่งหูลงไป สไลซ์ให้ยาวระดับไหล่
+ ควรหลีกเลี่ยง
ทรง ผมดัดหยิกลอนเล็ก ที่มีความยาวระดับคาง ไม่ใช่ว่าสาวหน้ากลมห้ามรวบผมตึง โดยเด็ดขาดนะคะ ถ้าต้องการรวบผมตึง มีเทคนิคยกช่วงบนให้สูง (อารมณ์ตีโป่งผมช่วงบน แบบทันสมัยน่ะค่ะ มีอยู่ช่วงนึงเมื่อปลายปี 2004 ที่เหล่าดารา Hollywood ฮิตตีโป่งผมด้านหน้า แล้วปล่อยปลายผมยาว..ทรงนี้สาวหน้ากลมสามารถทำได้ และดูสวยเริ่ดเชียวค่ะ.. การที่ยกผมช่วงบนสูง เพื่อที่จะถ่ายน้ำหนักด้านข้างของใบหน้า ทำให้หน้าดูเพรียวยาว
หน้ายาว สำหรับผมตรง ควรเพิ่มความกว้างของใบหน้า ด้วยผมม้า หรือผมแสกข้าง นอกจากนี้ ทรงผมดัดหยิกมีคลื่นเล็กน้อย ถึงปานกลาง ก็สามารถเพิ่มความกว้าง ให้ศีรษะได้ค่ะ
+ ควรหลีกเลี่ยง
ทรงผมสั้นสไลซ์ที่สั้นเกินไป หรือเน้นน้ำหนัก ช่วงบนศีรษะ อย่างตีโป่งด้านหน้า อันนี้ไม่ควรค่ะ เพราะจะเน้นให้ใบหน้าดูยาว
หน้ารูปหัวใจ สาวที่มีรูปหน้าแบบนี้ คือหน้าผากค่อนข้างกว้าง หรือเป็นทรงสี่เหลี่ยม มีโหนกแก้มสูง ส่วนคางแคบ เล็ก แหลม ดวงตาของสาวๆ หน้ารูปหัวใจ จะเป็นจุดเด่นที่สุด บนใบหน้า สิ่งที่ต้องทำคือ เบนความสนใจจากโหนกแก้ม ไปยังส่วนอื่นๆ และพรางคางที่แหลมเล็ก ให้ดูกลมกลึง ได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น ถ้าต้องการตัดผมสั้น ควรให้ผมด้านบนยาว และสไลซ์ให้ดูเบา อย่าง ผมหน้าม้าปาดข้างที่ออกจะฮ็อตฮิตอยู่ สาวๆผมสั้นทรงนี้จะดูเปรี้ยว เฉี่ยว ทันสมัย ไฮโซววว์มากๆค่ะ ถ้าอยากไว้ทรงผมบ็อบระดับคาง หรือเคลียไหล่ เหมาะกับทรงผม ที่เซ็ตปลายสะบัด หรือสไลซ์ปลาย เพราะจะช่วยไม่เน้น ให้คางดูแหลมมากนักค่ะ ถ้าชอบผมยาว จะดูสวยโดดเด่นเป็นพิเศษ กับทรงผมดัดคลื่นลอนอ่อนๆ เพราะบดบังความสูงของโหนกแก้ม และพรางตาไม่ให้คางเล็กแหลม จะช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนหวานมากยิ่งขึ้นค่ะ
+ ควรหลีกเลี่ยง
ทรง ผมม้าตัดตรง เพราะจะเน้นใบหน้าช่วงล่างทั้งคาง และโหนกแก้มให้ชัดเจนมากไปค่ะ ส่วนการสไลซ์ที่ตัดหยาบๆ ไม่บางเบา ก็จะทำให้โครงใบหน้าเราดูแข็ง

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ตั้งกระทู้ แต่งหน้า สไตล์สวยใส ดูเป็นธรรมชาติ,,


การ แต่งหน้าให้ดูสวยเป็นธรรมชาติ คือการแต่งเติมสิ่งที่มีอยู่เดิมตามธรรมชาติให้ดูชัดขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังรักษาความกลมกลืน ไม่ให้จุดหนึ่งจุดใดบนใบหน้าโดดเด่นเกินไป

เลือกเฉดสีธรรมชาติ สไตล์ การแต่งหน้าแนวสวยใส ควรเลือกทาอายแชโดว์เฉดสีชมพูนู้ด สีพีช หรือสีชมพูอมม่วง เนื้อเหลือบวาวบางใส แทนอายแชโดว์สีเข้ม อีกทั้งอาจทาจนถึงใต้โหนกคิ้ว เพื่อให้ดูทันสมัยและดูเป็นธรรมชาติ ยึดหลักที่ว่าถ้าปากเข้มแล้ว ส่วนที่เหลือของใบหน้าควรใช้สีอ่อนบางกว่า เพื่อไม่ให้แข่งกัน

ปัดแก้มพอประมาณ อย่า ปัดแก้มหนักมือเพียงเพื่อต้องการที่จะปรับโครงสร้างใบหน้า สีแก้มเข้ม ๆ หรือการปัดเลยแนวโหนกแก้มเกินจริง อาจทำให้คุณดูเหมือนตัวตลกหรือคนป่วยได้ ที่ถูกต้อง ควรเลือกสีแก้มโทนสีชมพูระเรื่อใส ๆ ช่วยให้แลดูเป็นสาวสุขภาพดีเปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวา เช่น สีพีชหรือสีชมพูอมม่วงอ่อน ๆ ปัดเบา ๆ ที่บริเวณโหนกแก้มกระจายหายไปทางขมับ


ริมฝีปากอวบอิ่ม หลีก เลี่ยงการเขียนขอบปากสีเข้มจนเห็นเป็นขอบชัด เพื่อให้ดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติ เลือกใช้ลิปสติกเนื้อมันวาวผสมกลอสสีนู้ดหรือสีชมพูใส ๆ ช่วยให้ปากดูอวบอิ่มกว่าการทาลิปสติกทั่วไป อีกทั้งประหยัดและสะดวกเวลา ช่วยให้ริมฝีปากดูเนียนเรียบ อำพรางริ้วรอยและความแห้งกร้าน


นัยน์ตาสดใส ดินสอ เขียนขอบตาสีขาว ช่วยเพิ่มความกลมโตสดใสให้ดวงตา โดยลากเส้นนุ่ม ๆ ด้านในขอบตาล่าง ก่อนวาดขอบตาด้วยอายแชโดว์สีน้ำตาลใต้แนวขนตาอีกครั้ง แทนการแต่งตาสีเข้มและเขียนขอบตาดำ


อำพรางเพียงเบาบาง อย่า ทารองพื้นหนาเตอะทั่วทั้งใบหน้าเพื่อปกปิดและอำพรางจุดบกพร่อง ใช้วิธีแต่งแต้มคอนซีลเลอร์ทับบริเวณที่ต้องการปกปิด เกลี่ยให้กลมกลืน หรือทาใบหน้าเกลี้ยงเกลาอยู่แล้ว ก็ทาเพียงทินต์มอยส์เจอไรเซอร์หรือเมคอัพไพรเมอร์ ปรับสภาพผิวให้สว่างสดใส แล้วตบทับด้วยแป้งฝุ่นโปร่งแสงทั่วใบหน้า เพื่อโชว์ผิวสวยเปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ


คิ้วงามตามธรรมชาติ จัด แต่งคิ้วให้เข้ารูป ด้วยการถอนคิ้วส่วนเกินที่ทำให้ดูไม่เป็นระเบียบด้วยแหนบ เวลาจะแต่งคิ้วให้ได้รูปสวย ใช้พู่กันแต่งคิ้วแตะอายแชโดว์สีเดียวกับสีผมหรือเข้มกว่าหนึ่งเฉด แต่งแต้มขนคิ้วตรงบริเวณที่เป็นรอยโหว่แล้วเกลี่ยให้กลมกลืน เน้นที่ส่วนโค้งของคิ้วให้เข้มกว่าจุดอื่น ปลายคิ้วไม่ต้องแหลมคมมาก จากนั้นปัดทับด้วยเจลใสเพื่อให้คิ้วเข้ารูปได้หลายชั่วโมง

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

รอยแผลเป็นจาก... สิว,,

ผิวสวยหน้าใสเป็นสิ่งปรารถนาสำหรับทุกท่าน การดูแลสุขภาพผิวที่ถูกวิธีจะช่วยให้ท่านมีผิวพรรณที่ดี ช่วยเสริมบุคลิกภาพ
การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ การพักผ่อนที่เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดวันละ 1-2 ลิตร รวมถึงการหลีกเลี่ยงแสงแดดโดยการสวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม และใช้ยาทากันแดดจะช่วยชะลอปัญหาผิวพรรณ หมองคล้ำหยาบกร้านก่อนวัยอันสมควร อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะได้มีการดูแลผิวพรรณแล้ว แต่มีปัจจัยบางอย่างในแต่ละช่วงอายุที่ทำให้เกิดปัญหาผิวพรรณ เช่น ปัญหาการเกิดสิวในช่วงวัยรุ่น, ปัญหาฝ้า กระในผู้สูงอายุ

เมื่อ ย่างเข้าสู่วัยรุ่นจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งทำให้การทำงานของต่อมไขมันเพิ่มมากขึ้น เป็นผลให้เกิดเป็นสิวอักเสบ บางครั้งทิ้งริ้วรอยไว้เป็นผลและรอยขรุขระที่ผิวหนัง ทำให้วัยรุ่นบางคนขาดความมั่นใจในตนเอง
การ แก้ไขปัญหารอยแผลเป็นจากสิวทำได้โดยการ หลีกเลี่ยงสาเหตุกระตุ้นการเกิดสิวซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดแผลเป็น โดยการดูแลสุขภาพผิว เช่น การพักผ่อนที่เพียงพอ หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว เช่น ความร้อน แสงแดด มลภาวะจากควันรถยนต์ การแต่งหน้าเข้มเกินไป พยายามหลีกเลี่ยงการบีบ แคะ แกะ เกา เพราะจะทำให้เกิดแผลเป็นเพิ่มขึ้น

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ข้อควรและห้าม ในการแต่งสีให้เล็บดูสวย,,


ก่อนจะทาเล็บ แต่งสีเล็บให้ดูสวยๆ มาอ่านข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เพื่อถนอมเล็บให้อยู่กับเรานานๆ กันจ้า

Do ==> ควรจะทำความสะอาดเล็บด้วยการล้างสีเล็บเก่าออกเสีย ก่อน (ถ้าทาสีอยู่แล้ว) วิธีทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยาก อะไร เพียงแค่แช่เท้าในน้ำสบู่อ่อนๆ และขัดเล็บเท้าด้วย แปรงขนนุ่มๆ
Don't ==> ถ้าอยากให้สีเล็บเท้าติดสนิททนนาน ก็ควรจะละเว้นสีที่ เป็นประกายด้วยกากเพชรแวววาว เพราะสีทาเล็บประเภท นี้จะไม่ติดทนนาน

Do ==> ยาทาเล็บชนิดแห้งเร็วนั้นสะดวกทันใจดี แต่จะให้สวยทน นานแล้วล่ะก็คงจะต้องเป็นแบบมาตรฐานทั่วไปที่แห้งช้า กว่าแต่คุณภาพเป็นที่น่าพอใจ

Don't ==> อย่าทาสีเล็บให้หนาเตอะ เพราะจะดูจับเป็นก้อนไม่เรียบ เนียน

Do ==> เก็บยาทาเล็บไว้ในตู้เย็นก็ดีนะคะ เพราะจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้

Don't ==> ไม่ต้องกลุ้มใจไปถ้าหากมีตำหนิเล็กน้อยบ้างจากการทาเล็บ เพราะระยะห่างจากดวงตาที่มองไปยังปลายเท้านั้น ไกล มองเห็นตำหนิเล็กน้อยได้ยากอยู่แล้ว


วันอาทิตย์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

รู้ได้อย่างไร ว่าเราแพ้เครื่องสำอางค์,,

การแพ้เครื่องสำอางนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย และสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีที่สัมผัสกับสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ (Allergen) หรืออาจมีอาการเกิดขึ้นในภายหลังก็ได้ ผู้ที่แพ้สารใดแล้ว เมื่อสัมผัสกับสารนั้นเพียงเล็กน้อยก็เกิดการแพ้ขึ้นได้ สารที่พบว่าก่อให้เกิดการแพ้ได้บ่อยเป็นอันดับต้น ๆ คือ

- สารแต่งกลิ่นน้ำหอม(fragrance/perfume) รองลงมาได้แก่

- สารกันเสีย (preservatives) และ

- สารป้องกันแสงแดด (Sunscreens)


ลักษณะการแพ้เครื่องสำอางมีด้วยกันหลายรูปแบบ เช่น เกิดการปวดแสบปวดร้อน หรือรูสึกคันยิบ ๆ อาการจะเกิดไม่เกิน 10 นาที บางครั้งก็เกิดอาการปรากฎเป็นผื่นแดงคัน ถ้าแพ้มากก็เป็นตุ่มแดงตุ่มน้ำหรือเป็นปื้นนูนแบบลมพิษ เคยสังเกตหรือไม่ว่า บางคนอายุมากแล้วก็ยังมีสิวเกิดขึ้นบริเวณใบหน้าอยู่ ก็ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจเกิดจากการแพ้เครื่องสำอางได้เช่นกัน ผู้ที่รักสวยรักงามทุกคน คงไม่อยากเจอปัญหาแพ้เครื่องสำอางภายหลังการใช้เป็นแน่


ดังนั้นเราต้องทดสอบการแพ้ ก่อนที่จะใช้เครื่องสำอางกับผิวหน้าของเรา โดยวิธีการดังนี้ คือ ให้ทาเครื่องสำอางตรงบริเวณท้องแขนทิ้งไว้ประมาณ 24-28 ชั่วโมง หากไม่พบความผิวปกติแล้วจึงค่อยใช้ หรืออาจทดสอบอีกวิธีหนึ่งก็ได้คือ ทาเครื่องสำอางที่ซื้อมาบริเวณข้อพับแขน วันละ 2 ครั้งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ถ้าไม่มีผื่นแดงเกิดขึ้นแสดงว่าใช้เครื่องสำอางนั้นได้ งามช้าลงสักหน่อยแต่มั่นใจคงดีกว่างามเร็วแบบเสี่ยง ๆ นะครับ

ผู้ที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากธรรมชาติทาแล้วจะไม่เกิดอาการแพ้ เพราะทำมาจากธรรมชาติแล้วย่อมปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งไม่จริงเสมอไป


ทั้งนี้ เนื่องจากการแพ้เป็นปฏิกิริยาที่ซับซ้อนเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของร่างกายแต่ละคนจึงเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ประกอบกับเครื่องสำอางสมุนไพร เช่น แชมพู สบู่ โลชั่นทาผิวหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมายที่ทำมาจากสมุนไพรเพียงอย่างเดียว แต่มีสารเคมีอื่นผสมอยู่ด้วย ดังนั้น จึงไม่สามารถรับรองได้ว่าใช้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดการแพ้

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ทิ้งซะเครื่องสำอางหมดอายุ!!






>>> เริ่มจากกลุ่มของเหลว รองพื้นมีอายุเพียง 1 ปีหลังเปิดใช้ ถ้าเป็นแบบผสมน้ำ แต่ถ้ามีน้ำมันผสมหยวนได้ถึง 1 ปี ครึ่ง วิธียืดอายุให้เก็บไว้ในตู้เย็น ปิดฝาให้สนิท อย่าสัมผัสรองพื้นโดยตรงใช้แปรงหรือฟองน้ำดีที่สุด ถ้ามีกลิ่นเหม็นหืนหรือเนื้อครีมเปลี่ยนสีต้องทิ้งทันที

>>> กลุ่มลิควิดอายไลเนอร์และมาสคาร่าจะมีอายุสั้นที่สุดเพียง 3-6 เดือน หลังเปิดใช้ เนื่องจากด้ามแปรงที่ปัดขนตาเป็นที่สะสมของแบคทีเรีย วิธียืดอายุ ห้ามปั๊มมาสคาร่าเพราะจะทำให้อากาศเข้าวิธีใช้แค่ขยับแปรงกระทบด้ามเบาๆ 1 ทีก็พอ


>>> น้ำยาทาเล็บมีอายุ 1 ปี หลังเปิดใช้ เขย่าขวดบ่อยๆ ช่วยไม่ให้น้ำยาทาเล็บเกาะตัวกัน แต่ถ้าแข็งมากมีเคล็ดลับใช้น้ำยาล้างเล็บผสมลงไป เขย่าทำให้สีละลายเพิ่มอายุการใช้งาน

>>> น้ำหอม ถ้ายังไม่เปิดใช้เก็บให้ห่างแสงแดดและความร้อน มีอายุนานถึง 3 ปีแต่ถ้าใช้แล้วอยู่ได้ราว 1 ปีครึ่ง สังเกตถ้ามีกลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนหรือน้ำเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแปลว่าหมดอายุ

>>> ต่อไปเป็นกลุ่มเนื้อครีม เช่น ลิปสติก ดินสอเขียนขอบปากขอบตา บรัชออนหรืออายแชโดว์แบบครีม มีอายุใช้งานหลังจากเปิดใช้นานถึง 2 ปี แต่ต้องพยายามอย่าใช้มือสัมผัสโดยตรง ควรใช้แปรงแต่ละประเภทแทน แต่ระวังลิปกลอสมีอายุใช้งานเพียง 1 ปีเท่านั้น โดยเฉพาะแบบจิ้มจุ่ม หากหมดอายุ สีและน้ำมันจะแยกชั้นเห็นชัดเจน รวมทั้งกลิ่นก็จะเปลี่ยนไป

>>> ส่วนสกินแคร์บำรุงผิว ให้ลองสังเกตวันหมดอายุข้างกล่อง ระบุคำว่า MFD หรือ MFG คือวันผลิต นับต่อใช้ได้หลังจากเปิดฝาประมาณ 1 ปี แต่ส่วนใหญ่ให้ดูสัญลักษณ์คล้ายรูปกระป๋องเปิดฝาที่ข้างขวด เช่น มีตัว เลข 12M อยู่ในกระป๋องแปลว่าหลังจากเปิดใช้มีอายุ 12 เดือน เป็นต้น